ตามทันโลก Blockchain คริปโต NFT

Blockchain คืออะไร มีการทำงานแบบไหน

เทคโนโลยี Blockchain เรียกว่า Distributed Ledger Technology หรือ DLT เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ข้อมูลดิจิทัลสามารถแจกจ่ายได้ แต่ไม่สามารถคัดลอกได้ ข้อมูลดิจิทัลจะถูกถ่ายโอนในรูปแบบของ ‘บล็อค’ ซึ่งจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลสาธารณะที่เรียกว่า ‘เชน’ บล็อกในบล็อกเชนประกอบด้วยข้อมูลดิจิทัลโดยเฉพาะ เช่น วันที่ทำธุรกรรม รายละเอียดผู้เข้าร่วม ฯลฯ แต่ละบล็อกจะจัดเก็บรหัสเฉพาะที่เรียกว่า ‘แฮช’ ซึ่งแยกแต่ละบล็อกออกจากกัน เมื่อใดก็ตามที่มีการทำธุรกรรมใหม่บนเครือข่ายบล็อคเชน บล็อคใหม่จะถูกสร้างขึ้นพร้อมรายละเอียดของธุรกรรม บล็อคนี้จะได้รับรหัสเฉพาะที่เรียกว่า ‘แฮช’ บล็อกจะถูกส่งไปยังเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเพื่อยืนยันธุรกรรม

ทำไม Blockchain จึงไม่สามารถแฮ็คได้

ทุกบล็อกประกอบด้วยข้อมูลหลัก 3 ประการ ได้แก่ ข้อมูล ค่าแฮชก่อนหน้า และค่าแฮชปัจจุบัน เมื่อบุคคล A ต้องโอนเงิน 100 ดอลลาร์ให้กับบุคคล B บล็อกจะถูกสร้างขึ้น โดยมีรายละเอียดของธุรกรรมและค่าแฮชที่ไม่ซ้ำกัน นอกจากนี้หากบุคคล B โอนเงิน 50 ดอลลาร์ให้กับบุคคล C บล็อคใหม่จะถูกสร้างขึ้นด้วยค่าแฮชก่อนหน้า และค่าแฮชใหม่จะถูกคำนวณและจัดเก็บไว้ อย่างที่ทุกคนเห็น ทุกบล็อคใหม่มีค่าแฮชของบล็อคก่อนหน้า และด้วยเหตุนี้ความเป็นไปได้ของกิจกรรมที่ผิดกฎหมายจะถือเป็นโมฆะ หากมีการเปลี่ยนแปลงธุรกรรมไม่ว่าในกรณีใด ค่าแฮชจะไม่ถูกแทนที่ แต่บล็อคใหม่จะถูกสร้างขึ้นด้วยค่าแฮชใหม่

PoW และ PoS คืออะไร

Proof-of-Work (PoW) เป็นอัลกอริธึมแบบดั้งเดิมในเครือข่าย blockchain อัลกอริทึมนี้ใช้เพื่อยืนยันธุรกรรม และเพิ่มบล็อคใหม่ให้กับเครือข่าย นักขุดที่ใช้ PoW จะแข่งขันกันเองเพื่อทำธุรกรรมให้เสร็จเพื่อรับรางวัล โดยพื้นฐานแล้ว นักขุดจะไขปริศนาเพื่อสร้างบล็อคใหม่บนบล็อกเชน ความซับซ้อนของปริศนาขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้ กำลังไฟฟ้า และการโหลดของเครือข่าย และเวลาเฉลี่ยที่ใช้สำหรับ PoW ในการสร้างบล็อคใหม่คือ 10 นาที สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ก็ทำตามระบบที่คล้ายกัน

Proof-of-Stake (PoS) ช่วยเพิ่มพลังการขุดให้กับผู้ที่มีเหรียญมากขึ้น การขุด Crypto ต้องใช้พลังการประมวลผลมหาศาลเพื่อไขปริศนาต่าง ๆ ซึ่งไม่มีอะไรเลยนอกจากการคำนวณด้วยการเข้ารหัส พลังประมวลผลใช้ทรัพยากรไฟฟ้าจำนวนมาก บางครั้งนักขุดก็ขายรางวัลที่ได้มาเพื่อจ่ายค่าไฟ ดังนั้น PoS จึงกำหนดคุณลักษณะของผู้ขุดตามการถือครอง โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ตัวอย่างเช่น หากนักขุดมี Bitcoin อยู่ 3 เปอร์เซ็นต์ เขาก็สามารถขุดได้เพียง 3 เปอร์เซ็นต์ของบล็อคเท่านั้น

Defi คืออะไร

DeFi (Decentralized Finance) เป็นแอปพลิเคชันทางการเงินอีกประเภทหนึ่ง และมีการใช้งานที่โดดเด่นที่สุดของเทคโนโลยี blockchain เนื่องจากบริการทางการเงินทั้งหมดสามารถเข้าถึงการกระจายอำนาจตนเองได้อย่างง่ายดายสำหรับรูปแบบการสร้างรายได้ที่สร้างผลตอบแทนสูง เช่นเดียวกับการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ DeFi ก็ไม่มีที่ว่างสำหรับบุคคลที่สามเช่นกัน การซื้อ ขาย หรือให้ยืมเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย ข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดจะระบุไว้ใน smart contract ที่จะถือว่าเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมก็ต่อเมื่อเงื่อนไขในสัญญาเสร็จสมบูรณ์เท่านั้น